รายละเอียด
• HP: 55,053,600
• Enrage Timer: 10 นาที
• บอสจะตามคนที่มีค่า Toughness สูงสุด, สมาชิกทุกคนควรจะมีสกิล CC
• เงื่อนไขเบื้องต้น: อย่าให้ Mesmers Projections อยู่ใกล้กันไม่งั้นมันจะรวมร่าง และเวลาที่กำจัดแต่ละตัวควรจะกำจัดใกล้ๆกับตัวบอส KC เพื่อที่จะลบสแต๊คบัฟ Xera's Embrace ของบอสออก เมื่อสามารถลบบัฟมันออกได้หมด (2 Stacks) จะต้อง CC บอสเพื่อให้เข้าสู่ช่วง Construct Core ในช่วงนี้ผู้เล่นจะต้องผลัก Construct Core ตรงกลางห้องให้ไปชนกับ Ley Rifts ที่อยู่รอบๆ ยิ่งชนมากเท่าไรในช่วง Burn จะยิ่งสามารถทำความเสียหายกับบอสได้มากยิ่งขึ้น และระหว่างช่วงธรรมดาให้ระวัง AoE, Crimson/Radiant Phantasms, และระวังช่วง Magic Blast ที่จะเกิดขึ้นทุกๆครั้งที่บอสเหลือเลือด 66% และ 33%
วีดิโอประกอบ
Druid PoV
Ele PoV
เงื่อนไขการพิชิต
บัฟของ KC จะมีอยู่ 2 บัฟหลักๆด้วยกัน:
- Xera's Embrace - โดยจะมีเริ่มต้น 2 Stacks, สามารถลดสแต๊คได้โดยการฆ่า Mesmer Projctions ใกล้ๆตัวบอส และเมื่อลบบัฟได้ 2 สแต๊คแล้วจะทำให้หลอด Breakbar ของบอสโผล่และเข้าสู่ช่วง Special Mechanic
- Gaining Power - ทุกๆ 1 สแต๊คจะทำให้ตัวบอส KC ตีแรงขึ้น 10% และ Condition แรงขึ้น 3% ซึ่งตัวบอสจะได้รับบัฟนี้ทุกๆนาที และไม่สามารถลบล้างได้แต่อย่างใด
Mesmer Projections
จะโผล่ตอนเวลา 9:40 โดยจะมี 2 Mesmer Projections โผล่ออกมาจากรูปปั้นในทิศทางที่ตรงกันข้ามและมันจะ Fixated ผู้เล่นแบบสุ่มว่าใครจะถูกเล็งหัวเหมือนกับ Slothasor. โดย Mesmer จะมีวงกลมสีขาวอยู่รอบตัวมัน หากวงนี้สัมผัสหรืออยู่ใกล้กับอีกตัวนึงมันจะดึงดูดเข้าหากันและรวมร่างกลายเป็น Insidious Projection ซึ่งจะมีเลือดที่มากกว่าและจะเปลี่ยน Boon ของผู้เล่นเป็น Condition อีกด้วย- สามารถสังเกตได้ว่า Mesmer Projection จะเกิดรูปปั้นไหนโดยการดูว่ารูปปั้นไหนที่เรืองแสงสีขาวก็รูปปั้นนั้นหละ เทคนิคคือการลากบอสมาหารูปปั้นที่เรืองแสงก่อนและทำการโจมตีแบบ AoE เพื่อให้โดนทั้งตัวบอสและตัวปลอมของมัน โดย Projection จะเกิดขึ้น 2 ตัวทุกครั้งเหมือนช่วงเวลา 9:40 หรือหลังจากที่บอสจบช่วง Magic Blast ตอนช่วงเลือด 66% และ 33%
- Fixation ก็เหมือนกับตอนลง Slothasor โดยผู้เล่นที่ถูกเล็งจะมีไอคอนสีม่วงอยู่บนหัว และมีข้อความกลางบนหน้าจอบอกว่า - You have been fixated
- หากผู้เล่นที่ถูก fix นั้น downed. เจ้าตัว Projections ก็จะเปลี่ยนไป fix คนอื่นแทน ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ถ้าผู้เล่นไม่ได้สังเกตมอง
- หากทำให้เกิด Insidious Projection ออกมาตัวหนึ่งอาจจะยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่สักเท่าไร แต่หากปล่อยให้มันอยู่นานๆก็ยิ่งมีโอกาสเฟลมากเท่านั้น เพราะมันมี HP ที่เยอะ, หวดก็แรง
Projection ตัวหนึ่งควรจะถูกลากมาฆ่าใกล้ๆบอส และขณะที่อีกตัวควรจะลากออกไป เมื่อตัวอยู่ใกล้ตัวบอสตายแล้ว ก็ค่อยลากอีกตัวเข้ามาหาบอสอีกที และเมื่อบัฟ Xera's Embrace หมดก็ให้ทำการทำลาย Breakbar ของตัวบอส จากนั้นก็จะเข้าสู่ Construct Core Phase...
Construct Core Phase
สำหรับ Phase นี้จะเกิดขึ้นได้หลังจากที่ลบบัฟ Xera's Embrace และสามารถทำลาย Breakbar ได้สำเร็จแล้วเท่านั้น ในช่วงนี้จะมีวงกลมสีเขียวปรากฏขึ้นอยู่ในห้องนี้ทั้งหมด 3 วงด้วยกัน โดยแต่ละวงจะมี Xera's Phantasm ยืนอยู่ตรงกลาง สิ่งที่ต้องทำก็คือให้ผู้เล่น 2 คนหรือมากกว่าอยู่ยืนในแต่ละวงแล้วเดียว Phantasm จะทำลายไปเองหลังจากวงหมดเวลา แต่ถ้าหากผิดพลาดลูกบอลก็จะระเบิดและก็ตายทั้งหมด
หลังจากที่ Phantasms ถูกทำลายหมดแล้ว Construct Core ตรงกลางห้องจะตกลงมาและผู้เล่นสามารถผลักมันได้โดยการโจมตีใส่มัน และในระหว่างนี้จะมี Ley Rift โผล่ขึ้นมาขอบๆวงสีแดงทั้งหมด 5 อันด้วยกัน ที่เราต้องทำก็คือการผลักเจ้าลูกบอลนี้ให้ไปโดนกับ Ley Rift โดยผลักโดน 1 อันจะทำให้บอสติดดีบัฟโดนโจมตีแรงขึ้น 75% ต่อสแต๊คในช่วง Burn Phase
การผลักลูกบอลให้ไปโดนกับ Ley Rift นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมันมีมอน Retriever Projections โผล่ออกมาขัดขวางโดยมันจะวิ่งเข้ามาเอาลูกบอลคืน หากลูกบอลถูกจับโดย Retriever Projections หรือลูกบอลถูกดีดเข้าขอบสีแดงเมื่อไร Phase นี้จะจบลงทันที!
- ผู้เล่น 1-2 คนควรจะเป็นคนคอยผลักลูกบอลไปรอบๆโดยการโจมตีแบบ Autoattack ผลักมันไปให้โดน Ley Rift รอบๆห้อง ส่วนผู้เล่นที่เหลือคอยใช้สกิล CC ทำลาย Breakbar ของ Retriever Projections
- การทำลาย Breakbar ของ Retriever Projections นั้นจะทำให้ตัวมอนหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราวและติดสตันซึ่งจะทำให้คนผลักบอลผลักง่ายยิ่งขึ้น
- Retriever Projections จะหายไปเองเมื่อหมดช่วง Phase นี้เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องฆ่าแต่แค่ขัดมันให้ได้ก็พอ
Burn Phase
Phase นี้จะเกิดขึ้นหลังจาก Construct Core Phase โดยต้องทำลาย Ley Rift ให้ได้อย่างน้อย 1 อัน โดยขึ้นอยุ่กับจำนวนดีบัฟสแต๊คของตัวบอสว่าตี้เราสามารถทำได้เท่าไรในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งหากทำลาย Ley Rift ได้หมดความแรงที่เพิ่มขึ้นจะเป็น 5x75% ซึ่งจะทำสามารถทำความเสียหายต่อบอสได้อย่างมหาศาล
ปกติบอสตัวนี้ก็มี HP ที่เยอะอยู่แล้ว เพราะงั้น Phase นี้จึงเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในการฆ่ามันก่อนที่เวลาจะหมดโดยควรจะทำให้ได้ 5 สแต๊ค หรือขั้นตํ่าควรจะทำให้ได้ 3 สแต๊คในทุกๆรอบเพื่อฆ่าให้ทันก่อนที่มันจะ Enrage พอดีๆ
ท่าแรก : จะเป็นจุดวงกลมสีส้มใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักจะเกิดที่ใต้ตัวมัน โดยตัว KC จะกระโดดและกระทืบลงมา ท่านี้หลบง่ายมากๆ แต่ถ้าหากโดนนี้ก็จุกอยู่เหมือนกัน ท่านี้บอสไม่ค่อยใช้บ่อยเท่าไร
ท่าสอง : จะเป็น AoE เหมือนท่าพ่นไฟของ Sabetha (แต่โดนก็ไม่รุนแรงเท่าและก็ไม่ตายโดยทันที) โดยในช่วงที่บอสยังเลือดเยอะอยู่ก็จะมีแค่จุดเดียวไล่ทวนเข็มนาฬิกา แต่ยิ่งบอสเลือดน้อยมากเท่าไร วงเกิดก็จะเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งควรจะอยู่ใกล้ๆบอสไว้เพื่อที่จะวิ่งหนีวงได้ทัน แต่ระวังอย่าอยู่ใกล้ตัวบอสมากเกินไป เพราะมันสามารถทำความเสียหายเราได้เหมือนกัน
ท่าสี่ : จะเกิดขึ้นหลังจากบอสเลือดตํ่ากว่า 25% โดย KC จะกระโดดขึ้นและสาดเศษลงมาเป็นสายฝนด้านล่าง ซึ่งจะเกิด AoE หลายจุดแต่ก็สามารถเดินหลบได้อย่างง่ายดาย
http://dulfy.net/2016/06/15/gw2-keep-construct-raid-boss-guide/
ปกติบอสตัวนี้ก็มี HP ที่เยอะอยู่แล้ว เพราะงั้น Phase นี้จึงเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในการฆ่ามันก่อนที่เวลาจะหมดโดยควรจะทำให้ได้ 5 สแต๊ค หรือขั้นตํ่าควรจะทำให้ได้ 3 สแต๊คในทุกๆรอบเพื่อฆ่าให้ทันก่อนที่มันจะ Enrage พอดีๆ
Radiant & Crimson Phantasms
Radiant และ Crimson จะเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องมันให้หมดก่อนที่มันจะระเบิด หากมันระเบิดมันจะทำความเสียหายรอบห้องต่อตัวแรงมาก ซึ่งอาจจะทำให้ Death ได้ทันที โดยในช่วงนี้ผู้เล่นแต่ล่ะคนจะมีไอคอน Attunement ลอยอยู่เหนือหัวเราว่าเราได้สีขาวหรือสีแดง ง่ายๆว่าหัวเราได้สีอะไรก็ให้ไปตีเฉพาะตัวสีนั้น หากตีต่างสีมันจะตีไม่เข้า ซึ่งแต่ละตัวสามารถฆ่าได้ไม่ยากเพราะเลือดมันไม่เยอะสักเท่าไร
AoEs
KC จะมีท่าโจมตีเป็น AoE ทั้งหมด 4 ท่าด้วยกันในระหว่างที่เราต่อสู้ท่าแรก : จะเป็นจุดวงกลมสีส้มใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักจะเกิดที่ใต้ตัวมัน โดยตัว KC จะกระโดดและกระทืบลงมา ท่านี้หลบง่ายมากๆ แต่ถ้าหากโดนนี้ก็จุกอยู่เหมือนกัน ท่านี้บอสไม่ค่อยใช้บ่อยเท่าไร
ท่าสอง : จะเป็น AoE เหมือนท่าพ่นไฟของ Sabetha (แต่โดนก็ไม่รุนแรงเท่าและก็ไม่ตายโดยทันที) โดยในช่วงที่บอสยังเลือดเยอะอยู่ก็จะมีแค่จุดเดียวไล่ทวนเข็มนาฬิกา แต่ยิ่งบอสเลือดน้อยมากเท่าไร วงเกิดก็จะเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งควรจะอยู่ใกล้ๆบอสไว้เพื่อที่จะวิ่งหนีวงได้ทัน แต่ระวังอย่าอยู่ใกล้ตัวบอสมากเกินไป เพราะมันสามารถทำความเสียหายเราได้เหมือนกัน
ท่าสาม : จะเกิดวง AoE ขนาดใหญ่ใต้ผู้เล่นแต่ละคน เหมือนกับตัว Matthias แต่จะต่างกันตรงที่วงนี้จะใหญ่กว่ามาก แต่มีเวลามากกว่ากว่าที่มันจะระเบิด พยายามอย่ายืนซ้อนวงเดียวกัน โดย 1 วงสามารถทำความเสียหายได้ถึง 20% ของ HP
ท่าสี่ : จะเกิดขึ้นหลังจากบอสเลือดตํ่ากว่า 25% โดย KC จะกระโดดขึ้นและสาดเศษลงมาเป็นสายฝนด้านล่าง ซึ่งจะเกิด AoE หลายจุดแต่ก็สามารถเดินหลบได้อย่างง่ายดาย
Magic Blast
เป็นเงื่อนไขพิเศษที่จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่บอสเลือดเหลือ 66% และ 33% โดยตัวบอสจะยกมือทั้งสองขึ้นบนอากาศและจะมีข้อความกลางบนหน้าจอเด้งขึ้นมาว่า - The Keep Construct is attracting energy to unleash Magic Blast. ในช่วงนี้ทุกคนจะมี Attuned อยุ่บนหัวก็คือไม่สีขาวก็สีแดง จากนั้นจะมีลูกบอลรอบห้องสีแดงขาว/แดง พุ่งตรงดิ่งมาหาบอสที่อยู่ตรงกลางห้อง
ในตอนนี้ KC จะเป็นอมตะ สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือวิ่งชนลูกบอลหรือ body block ใส่ลูกบอลให้ตรงกับสีบนหัวที่เราได้ (ได้สีแดงก็บล็อคลูกบอลสีแดง) ซึ่งเมื่อโดนลูกบอลจะได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่หากลูกบอลเข้าถึงตัว KC ยิ่งมากเท่าไรความแรงของ Magic Blast ในตอนจบ Phase นี้ก็ยิ่งมากเท่านั้น
ตราบใดที่ KC ได้รับสแต๊คน้อย ในช่วง Magic Blast ก็จะไม่เป็นอะไรกันมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น